Pink Bobblehead Bunny

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Diary No. 4

วิชาการจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย

( Inclusive Education Experiences Management for Early Childhood )

อาจารย์ผู้สอน  อ. ตฤณ แจ่มถินวัน-เดือน-ปี 3-2-2559

เรียนครั้งที่  4  เวลาเรียน 08.30.- 12.30 น.


ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ(ต่อ)

4.เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา
(Children with Speech and Language Disorders)
     หมายถึง เด็กที่มีความบกพร่องซึ่งเกิดจากการพูดผิดปกติในด้านความชัดเจนในการปรับ ปรุงแต่งระดับและคุณภาพของเสียง จังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด เช่น ปากแหว่งเพดานโหว่
เรามารู้จักโรคบกพร่องทางการเรียนรู้
(Learning disability; LD)




  1.ความบกพร่องในด้านการปรุงเสียง (Articulator Disorders)
  • เสียงบางส่วนของคำขาดหายไป "ความ" เป็น "คาม"
  • ออกเสียงของตัวอื่นแทนตัวที่ถูกต้อง "กิน"  "จิน"  กวาด ฝาด
  • เพิ่มเสียงที่ไม่ใช่เสียงที่ถูกต้องลงไปด้วย "หกล้ม" เป็น "หก-กะ-ล้ม"
  • เสียงเพี้ยนหรือแปล่ง "แล้ว" เป็น "แล่ว"
  2.ความบอกพร่องของจังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด (Speech Flow Disorders)
  • พูดไม่ถูกตามลำดับขั้นตอนไม่เป็นไปตามโครงนสร้างของภาษา 
  • การเว้นวรรคตอนไม่ถูกต้อง
  • อัตราการพูดเร็วหรือช้าเกินไป
  • จังหวะของเสียงพูดผิดปกติ
  • เสียงพูดขาดความต่อเนื่อง สละสลวย
  3.ความบกพร่องของเสียงพูด (Voice Disorders)
  • ความบกพร่องของระดับเสียง
  • เสียงดังหรือค่อยเกินไป
  • คุณภาพเสียงไม่ดี พูดแล้วไม่น่าฟัง
ความบกพร่องทางภาษา
     หมายถึง การขาดความสามารถที่จะเข้าใจความหมายของคำพูดและ/หรือไม่สามารถแสดงความคิดออกมาเป็นถ้อยคำได้

  1. การพัฒนาการทางภาษาช้ากว่าวัย (Delayed Language)
  • มีความยากลำบากในการใช้ภาษา
  • มีความผิดปกติของไวยากรณ์และโครงสร้างของประโยค
  • ไม่สามารถสร้างประโยคได้
  • มีความบกพร่องทางเชาว์ปัญญา อารมณ์ สมองผิดปกติ
  • ภาษาทีใช้เป็นภาษาห้วนๆ
  2.ความผิดปกติทางการพูดและภาษาอันเนื่องมากจากพยาธิภาพที่สมอง โดยทั่วไปเรียกว่า Dysphasia หรือ aphasia
  • อ่านไม่ออก (alexia) *โตแล้วก็ยังทำไม่ได้
  • เขียนไม่ได้ (agraphia) *โตแล้วก็ยังทำไม่ได้ 
  • สะกดคำไม่ได้
  • ใช้ภาษาสับสนยุ่งเหยิง
  • จำคำหรือประโยคไม่ได้
  • ไม่เข้าใจคำสั่ง
  • พูดตามหรือบอกชื่อสิ่งของไม่ได้
Gerstmann's syndrome *อาการหนักสุด !!
  • ไม่รู้จักชื่อนิ้ว (finger agnosia)
  • ไม่รู้ซ้ายขวา (allochiria) 
  • คำนวณไม่ได้ (acalculia)
  • เขียนไม่ได้ (agraphia)
  • อ่านไม่ออก (alexia)
ลักษณะของเด็กบกพร่องทางการพูดและภาษา
  • ในวัยทารกมักเงียบผิดธรรมชาติ ร้องไห้เบาๆ และอ่อนแรง
  • ไม่อ้อแอ้ภายในอายุ 10 เดือน
  • ไม่พูดภายในอายุ 2 ขวบ
  • หลัง 3 ขวบแล้วภาษาของเด็กก็ยังฟังเข้าใจยาก (เข้าใจอยู่คนเดียว)
  • ออกเสียงตัวสะกดไม่ได้
  • หลัง 5 ขวบ เด็กยังคงใช้ภาษาที่เปนประโยคไม่สมบูรณ์ในระดับประถมศึกษา
  • มีปัญหาในการสื่อความหมาย พูดตะกุกตะกัก
  • ใช้ท่าทางในการสื่อความหมาย (ใช้ภาษามือ)


"จอร์จ สตีเว่น และฟลอเรียน" 3 เพื่อนซี้นักเดินทางชาวสวิส เขามีไอเดียสุดเก๋ ทำเสื้อยืดชื่อ "IconSpeak" ขึ้นมา ซึ่งจะเป็นเสื้อยืดที่พิมพ์ลายรูป "สัญลักษณ์สากล" ที่เราคุ้นตาและเข้าใจความหมายกันกว่า 40 รูปลงบนตัวเสื้อ




5.เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ (Children with Physical and Health Impairments)

นิค วูจิซิค (Nick Vujicic)
  • เด็กที่มีอวัยวะไม่สมส่วน
  • อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหายไป (แขน ขา ขาด)
  • เจ็บป่วยเรื้อรังรุนแรง
  • มีปัญหาทางระบบประสาท (ไม่ใช่บ้า)
  • มีความลำบากในการเคลื่อนไหว (เดินกะเพก)

โรคลมชัก (Epilepsy)


  • เป็นลักษณะอาการที่เกิดเนื่องมาจากความผิดปกติของระบบสมอง
  • มีกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติและมากเกินไปปล่อยออกมาจากเซลล์สมองพร้อมกัน (สมองส่งกระแสกประสาทผิดเพี้ยน ยังไม่สามารถระบะสาเหตุได้ชัดเจน)
   1.การชักในช่วงเวลาสั้นๆ (Petit Mal)
  • อาการเหม่อนิ่งเป็นเวลา 5-10 วินาที
  • มีการกระพิบตาหรืออาจมีเคี้ยวปาก
  • เมื่อเกิดอาการชักเด็กจะหยุดชะงักในท่าก่อนชัก 
  • เด็กจะนั่งเฉย หรือเด็กอาจจะตัวสั่นเล็กน้อย
  2.การชักแบบรุนแรง (Grand Mal)
  • เมื่อเกิดอาการชัก เด็กจะส่งเสียง หมดความรู้สึก ล้มลง กล้ามเนื้อเกร็ง เกิดขึ้นราว 2-5 นาที จากนั้นจะหายและนอนไปชั่วครู (บางคนอาจกรีดร้อง หรือ เกร็ง)
   3.อาการชักแบบ (Partial Complex)
  • มีอาการประมาณไม่เกิน 3 นาที
  • เหม่อนิ่ง
  • เหมือนรู้สึกตัวแต่ไม่รับรู้ไม่ตอบสนองต่อคำพูด
  • หลักชักอาจจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ และต้องการนอนพัก (หน้าตาเหมือนเมาเหล้าเวลาชัก)
   4.อาการไม่รู้สึกตัว (Focal Partial)
  • เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะสั้น เด็กไม่รู้สึกตัว อาจทำอะไรบางอย่างโดยที่ตัวเองไม่รู้ เช่น ร้องเพลง ดึงเสื้อผ้า เดินเหม่อลอย แต่ไม่มีอาการชัก
   5.ล้มบ้าหมู (Grand Mal)
  • เมื่อเกิดอาการชักจะทำให้หมดสติ และหมดความรู้สึกในขณะชักกล้ามเนื้อเกร็งหรือแขนขากระตุก กัดฟัน กัดลิ้น
การปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐานในกรณีเด็กมีอาการชัก
  • จับเด็กนอนตะแคงขวาบนพื้นราบที่ไม่มีของแข็ง
  • ไม่จับยึดตัวเด็กขณะชัก
  • หาหมอนหรือสิ่งนุ่มๆ รองศีรษะ
  • ดูดน้ำลาย เสมหะ เศษอาหารออกจากปาก เพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง
  • จัดเสื้อผ้าเด็กให้หลวม
  • ห้ามนำวัตถุใดๆ ใส่ในปาก
  • ทำการช่วยหายใจดดยวิธีการเป่าปากหากเด็กหยุดหายใจ





 ซี.พี. (Cerebral  Palsy)


  • การเป็นอัมพาตเนื่องจากระบบประสาทสมองพิการ หรือเป็นผลมาจากสมองที่กำลังพัฒนาถูกทำลายก่อนคลอด ระหว่างคลอด หรือ หลังคลอด
  • การเคลื่อนไหว การพูด พัฒนาการล่าช้า เด็กซีพี มีความบกพร่องที่เกิดจากส่วนต่างๆ ของสมองแตกต่างกัน (ไม่ส่งผลต่อ IQ)
  1.กลุ่มแข็งเกร็ง (Spasitc)
  • Spastic hemiplegia อัมพาตครึ่งซีก (แขนขวา ขาขวา , แขนซ้าย ขาซ้าย)
  • Spastic dipleagia อัมพาตครึ่งท่อนบน (แขนขวา , แขนซ้าย)
  • Spasitc paraplegia อัมพาตครึ่งท่อนล่าง (ขาขวา , ขาซ้าย)
  • Spastic quadriplegia อัมพาตทั้งตัว
  2.กลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเอง (Athetoid , Ataxia)
  • Athetoid อาการขยุกขยิกช้าๆ หรือ เคลื่อนไวเร็วๆ ที่เท้า แขน มือ หรือ ใบหน้าของเด็กบางรายอาจจมีคอเอียงปากเบี้ยวร่วมด้วย
  • Ataxia มีความผิดปกติในการทรงตัวของร่างกาย กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน
  3.กลุ่มอาการแบบผสม (Mixed)

กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Muscular Distrophy)
  • เกิดจากเส้นประสาทสมองที่ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนๆนั้น เสื่อมสลายตัว
  • เดินไม่ได้ นั่งไม่ได้ นอนอยู่กับที่
  • จะมีความพิการซ้อนในระยะหลัง คือ ความจำแย่ลง สติปัญญาเสื่อม
โรงทางระบบกระดูกกล้ามเนื้อ (Orthopedic)
     ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการแต่กำเนิด เช่น เท้าปุก (Club Foot) สามารถรักษาได้ กระดูกข้อสะโพกเคลื่อน อัมพาตครึ่งท่อนเนื่องจากกระดูกไขสันหลังส่วนล่างไม่ติด (Spina Bifida)
  • ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการดูกพิการด้วยโรคติดเชื้อ (Infection)  เช่น วัณโรค กระดูกหลังโกง กระพูกผุ เป้นแผลเรื้อรังมีหนอง เศษกระดูกผุ
  • กระดูกหัก ข้อเคลื่อน ข้ออักเสบ



โอลิโอ (Poliomyelitis)


  • มีอาการกล้ามเนื้อลีบเล็ก แต่ไม่มีผลกระทบต่อสติปัญญา
  • ยืนไม่ได้ หรืออาจปรับสภาพให้ยืนเดินได้ด้วยอุปกรณ์เสริม
  • ประเทศไทย ภาคอีสารเป็นเยอะที่สุด
โรคระบบทางเดินหายใจ
โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus)
โรคหัวใจ (Cardiac Conditions)
โรคมะเร็ง (Cancer)
เลือดไหลไม่หยุด (Hemophilia)
แขนขาด้วนตั้งแต่กำเนิด (Limb Deficiency)

ลักษณะของเด็กบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
  • มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว
  • ท่าเดินคล้ายกรรไกร
  • เดินกะเผลกขา หรืออืดอาดเชื่องช้า
  • ไอเสียงแห้งบ่อยๆ
  • มักบ่นเจ็บหน้าอก บ่นปวดหลัง
  • หน้าแดงง่าย มีสีเขียวจากบนแก้ม ริมฝีปากหรือปลายนิ้ว
  • หกล้มบ่อยๆ
  • หิวและกระกายน้ำอย่างเกินกว่าเหตุ


ความรู้ที่ได้รับ
  • ได้รับความรู้ในเรื่องของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ เช่น เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ ว่ามีลักษะอาการเป็นอย่างไร
ประเมินเพื่อนร่วมห้อง
  • เพื่อนมีความตั้งใจเรียน มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ แต่ในวันนี้ดิฉันเข้าเรียนสาย จึงทำให้ไม่ได้ดาว
ประเมินอาจารย์
  • อาจารย์สอนเข้าใจง่าย มีการยกตัวอย่างให้นักศึกษาเสมอ เปิดโอกาสให้เด็กได้ตอบคำถาม มีเทคนิคการสอนที่หลากหลาย และมีการเสริมแรง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น